รักพอดีๆชื่อเรื่อง…รักพอดีๆ ชื่อผู้แต่ง…อชิรญา ณ แจแปนสำนักพิมพ์…บริษัท แฮ๊ปปี้บุ๊ค พับลิชชั่ง จำกัด ปีที่พิมพ์…2553
สาระสำคัญที่ได้จากการอ่าน ปริมาณความรักคงไม่สามารถวัดด้วยหน่วยวัดน้ำหนักได้ เพราะความรักเป็นเรื่องนามธรรมจับต้องไม่ได้ แต่สามารถสัมผัสรับรู้ความรู้สึกได้ รักแค่ไหนถึงเรียกว่าพอดี จึงไม่สามารถกะเกณฑ์เป็นตัวเลขได้ มีเพียงคนสองคนเท่านั้นที่จะรู้ดีว่ารักแค่ไหนถึงจะพอดี รักแบบพอดีมันต้องอาศัยองค์ประกอบของความรักและเหตุผล รักแบบพอดีของคนๆหนึ่ง ไม่จำเป็นต้องเท่ากับของอีกคนเสมอไปและไม่มีใครสามารถรกำหนดแทนกันได้ เพราะอย่างนี้คนที่รักในวัยเรียนต้องเป็นผู้กำหนดเอง โดยดูจากปัจจัยต่างๆเช่น ความรับผิดชอบมากน้อยแค่ไหน ผลการเรียนอยู่ระดับไหน ควาสัมพันธ์ของคนรอบข้างเป้นอย่างไร และอื่นๆ ถ้าปัจจัยเหล่านี้อยู่ในขั้นตอนพอใจ มีความรับผิดชอบอย่างเต็มที่ การเรียนอยู่ในขั้นดี ก็ไม่มีอะไรต้องน่าเป็นห่วง ความรักแบบพอดีของคนเหล่านี้จึงสามารถเลยครึ่งแก้ว(น้ำ)มาได้
ข้อคิดที่ได้จากการอ่าน… ในการที่เราจะรักใครคนหนึ่งนั้น เราควรรักแบบพอดี ไม่หักโหมจนเกินควรคำนึงถึงสิ่งรอบข้างด้วยว่า เมื่อเรามีรักแล้วมันทำอะไรเสียหายหรือเปล่า อย่างเช่น ในเรื่องการเรียนของเราและอื่นๆ รวมถึงการที่เรารักอย่างมีเหตุผล
การนำข้อคิดที่ได้จากการอ่านไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน… เราก็สามารถนำไปใช้ประโยชน์เมื่อเรารู้สึกอยากจะรักใครสักคน ให้รู้จักพอดีของความรัก เพื่อที่จะได้ไม่ผิดหวังกับความรักและนั่งเสียใจเป็นเหมือนวัยรุ่นงมงายทั่วไป
ข้อความที่ประทับใจ/ข้อคิดเห็นของนักเรียน…
รักเป็นสิ่งที่ไม่สามารถกะเกณฐ์ได้ แต่เราจะรู้ว่าพอดีได้ด้วยความรู้สึกของคนสองคน
ศิษย์ที่ครูไม่ต้องการชื่อเรื่อง ศิษย์ที่ครูไม่ต้องการ
ชื่อผู้แต่ง พินิตย์ พันธประวัติ
สำนักพิมพ์ โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว ปีที่พิมพ์ 2525
สรุปสาระสำคัญที่ได้จากการอ่าน
เด็กชายเดช เดชากุล เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เป็นลูกคนเดียวของผู้มีอันจะกินคนหนึ่งถูกพ่อแม่ตามใจมากเกินไป เดชเป็นเด็กฉลาดแต่เขาไม่สนใจต่อการเรียนขาดเรียนบ่อย เอาแต่ใจตนเอง วันหนึ่งเดชมาเรียนตามปกติครูพรทิพย์จึงเรียกเดชมาพบที่โต๊ะหน้าห้องแต่เดช ไม่ยอมออกมาทำเป็นไม่สนใจต่อคำพูดของคุณครูและมีการโต้ตอบทำให้ครูไม่สามารถ ข่มใจได้อีกจึงพูดสั่งสอนเดชอย่างโมโห วันรุ่งขึ้นเดชมาเรียนเพียงครึ่งวันแล้วก็หิ้วกระเป๋าเดินคอตกกลับบ้าน ครูพรทิพย์สังเกตุว่าช่วงนี้เดชมาเรียนทุกวันแต่งกายเรียบร้อยแต่ซึมเศร้า ครูพรทิพย์ทำเป็นไม่สนใจเดชไม่ใยดีจนกระทั่งถึงวันสอบอ่านวิชาภาษาไทยเดชก็ เข้ามาจะสอบแต่ครูไม่สนใจไม่พูดด้วยเขาก็เดินออกไปแล้วเดินกลับบ้านน้ำตาซึม วันรุ่งขึ้นเดชไม่มาเรียนหลายวันและครูได้ข่าวว่าเดชไม่สบายครูจึงไปเยี่ยม ที่บ้านเดชขอโทษคุณครู คุณครูพรทิพย์ให้อภัยเดชทุกอย่างเพราะเดชได้ปรับปรุงตัวเองจนกลายเป็นคนละคน คุณครูพรทิพย์มีความสุขสุดที่จะกล่าว
สาระสำคัญที่ได้จากการอ่าน ปริมาณความรักคงไม่สามารถวัดด้วยหน่วยวัดน้ำหนักได้ เพราะความรักเป็นเรื่องนามธรรมจับต้องไม่ได้ แต่สามารถสัมผัสรับรู้ความรู้สึกได้ รักแค่ไหนถึงเรียกว่าพอดี จึงไม่สามารถกะเกณฑ์เป็นตัวเลขได้ มีเพียงคนสองคนเท่านั้นที่จะรู้ดีว่ารักแค่ไหนถึงจะพอดี รักแบบพอดีมันต้องอาศัยองค์ประกอบของความรักและเหตุผล รักแบบพอดีของคนๆหนึ่ง ไม่จำเป็นต้องเท่ากับของอีกคนเสมอไปและไม่มีใครสามารถรกำหนดแทนกันได้ เพราะอย่างนี้คนที่รักในวัยเรียนต้องเป็นผู้กำหนดเอง โดยดูจากปัจจัยต่างๆเช่น ความรับผิดชอบมากน้อยแค่ไหน ผลการเรียนอยู่ระดับไหน ควาสัมพันธ์ของคนรอบข้างเป้นอย่างไร และอื่นๆ ถ้าปัจจัยเหล่านี้อยู่ในขั้นตอนพอใจ มีความรับผิดชอบอย่างเต็มที่ การเรียนอยู่ในขั้นดี ก็ไม่มีอะไรต้องน่าเป็นห่วง ความรักแบบพอดีของคนเหล่านี้จึงสามารถเลยครึ่งแก้ว(น้ำ)มาได้
ข้อคิดที่ได้จากการอ่าน… ในการที่เราจะรักใครคนหนึ่งนั้น เราควรรักแบบพอดี ไม่หักโหมจนเกินควรคำนึงถึงสิ่งรอบข้างด้วยว่า เมื่อเรามีรักแล้วมันทำอะไรเสียหายหรือเปล่า อย่างเช่น ในเรื่องการเรียนของเราและอื่นๆ รวมถึงการที่เรารักอย่างมีเหตุผล
การนำข้อคิดที่ได้จากการอ่านไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน… เราก็สามารถนำไปใช้ประโยชน์เมื่อเรารู้สึกอยากจะรักใครสักคน ให้รู้จักพอดีของความรัก เพื่อที่จะได้ไม่ผิดหวังกับความรักและนั่งเสียใจเป็นเหมือนวัยรุ่นงมงายทั่วไป
ข้อความที่ประทับใจ/ข้อคิดเห็นของนักเรียน…
รักเป็นสิ่งที่ไม่สามารถกะเกณฐ์ได้ แต่เราจะรู้ว่าพอดีได้ด้วยความรู้สึกของคนสองคน
ศิษย์ที่ครูไม่ต้องการชื่อเรื่อง ศิษย์ที่ครูไม่ต้องการ
ชื่อผู้แต่ง พินิตย์ พันธประวัติ
สำนักพิมพ์ โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว ปีที่พิมพ์ 2525
สรุปสาระสำคัญที่ได้จากการอ่าน
เด็กชายเดช เดชากุล เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เป็นลูกคนเดียวของผู้มีอันจะกินคนหนึ่งถูกพ่อแม่ตามใจมากเกินไป เดชเป็นเด็กฉลาดแต่เขาไม่สนใจต่อการเรียนขาดเรียนบ่อย เอาแต่ใจตนเอง วันหนึ่งเดชมาเรียนตามปกติครูพรทิพย์จึงเรียกเดชมาพบที่โต๊ะหน้าห้องแต่เดช ไม่ยอมออกมาทำเป็นไม่สนใจต่อคำพูดของคุณครูและมีการโต้ตอบทำให้ครูไม่สามารถ ข่มใจได้อีกจึงพูดสั่งสอนเดชอย่างโมโห วันรุ่งขึ้นเดชมาเรียนเพียงครึ่งวันแล้วก็หิ้วกระเป๋าเดินคอตกกลับบ้าน ครูพรทิพย์สังเกตุว่าช่วงนี้เดชมาเรียนทุกวันแต่งกายเรียบร้อยแต่ซึมเศร้า ครูพรทิพย์ทำเป็นไม่สนใจเดชไม่ใยดีจนกระทั่งถึงวันสอบอ่านวิชาภาษาไทยเดชก็ เข้ามาจะสอบแต่ครูไม่สนใจไม่พูดด้วยเขาก็เดินออกไปแล้วเดินกลับบ้านน้ำตาซึม วันรุ่งขึ้นเดชไม่มาเรียนหลายวันและครูได้ข่าวว่าเดชไม่สบายครูจึงไปเยี่ยม ที่บ้านเดชขอโทษคุณครู คุณครูพรทิพย์ให้อภัยเดชทุกอย่างเพราะเดชได้ปรับปรุงตัวเองจนกลายเป็นคนละคน คุณครูพรทิพย์มีความสุขสุดที่จะกล่าว
ข้อคิดที่ได้จากการอ่าน
ได้รู้ถึงความรักที่ครูมีต่อลูกศิษย์ความอดทนเพื่อให้ลูกศิษย์เป็นคนดี คุณครูต้องการลูกศิษย์ทุกคนขึ้นอยู่ที่ตัวเราว่าจะทำตัวให้ครูต้องการหรือ ไม่ต้องการ
การนำข้อคิดที่ได้จากการอ่านไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน
ทำให้เราคิดได้ว่าถ้าไม่สนใจต่อการเรียนเราจะไม่เป็นที่รักของคุณครู ทำให้เราปรับปรุงตัวเองกับการเรียนในชีวิตประจำวันของเราให้ดียิ่งขึ้น
ข้อความประทับใจ/ข้อคิดเห็นของนักเรียน
ข้อความที่ครูให้อภัยต่อเดช สะท้อนให้เห็นความมีเมตตาสงสารพร้อมที่จะให้อภัยเมื่อเรากลับตัวเป็นคนดี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น